ประวัติคริสตจักร

คริสตจักรจีนนครปฐม ตั้งอยู่ที่ 225 ถ.ราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
คริสตจักรจีน(ปลายคลอง)เป็นคริสตจักรหนึ่งที่สังกัดคริสตจักรภาคที่ 11 แห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้ถือกำเนิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐมภายใต้การทรงนำและพระคุณความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
คริสตจักรจีนนครปฐม ได้ย้ายสถานประกาศอยู่หลายครั้งโดยมีชาวจีนซึ่งอพยพจากประเทศจีนจำนวนหนึ่งซึ่งมีความเชื่อในพระคริสต์อยู่ก่อนที่จะอพยพมาจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทย ได้รวมตัวกันมีการนมัสการรวมกันตามบ้านสมาชิกชาวจีน โดยนมัสการบ้านละครั้งวนเวียนไปเรื่อย ๆ
ใน ค.ศ.1906 คุณหมอและแหม่มคล๊าร์กซึ่งเดินทางจากประเทศอังกฤษในฐานะมิชชันนารี ผู้ประกาศเผยแพร่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ โดยล่องมาทางลำน้ำแม่กลองจากจังหวัดกาญจนบุรี ทางชายแดนเรือประเทศพม่าและได้เริ่มงานของท่านที่ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยปัจจุบันยังมีสถานที่ประกาศเป้นหลักฐานอยู่ ซึ่งเป็นชุมชนของชนชาติมอญในสมัยนั้น คุณหมอและแหม่มคล๊าร์กได้พบกับชาวจีนซึ่งมีความเชื่อในพระคริสต์ในจังหวัดนครปฐม
คุณหมอและแหม่มคล๊าร์ก ได้จัดตั้งสถานประกาศขึ้นที่ถนนรถไฟในปี ค.ศ.1906 โดยได้เช่าอาคารซึ่งสร้างเป็นตึก(ในขณะนั้นอาคารที่เป็นตึกหายากมาก)ปัจจุบันเป็นร้านขายขนมเค้กง่วนไล้ ในขณะเดียวกันอาคารหลังนั้นก็ใช้เป็นสถานพยาบาลและโรงเรียนไปในตัวด้วย
นายชุนกวง แซ่ตั้ง(บิดาของอาจารย์จุฬินทร์ ตกแต่ง)คริสเตียนชาวจีนผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าที่แข็งแรงท่านหนึ่งเป็นพ่อค้าในสม้ยนั้น ได้ร้อนรนที่จะทำการประกาศ เผยแพร่คริสตศาสนาและสนิทสนมกับครอบครัวหมอคล๊าร์กเป็นอย่างดี
     นายชุนกวง แซ่ตั้ง ได้เป็นอาจารย์สอนศาสนาคริสต์ในขณะนั้นด้วยคุณสมบัติพิเศษกล่าวคือท่านรู้ภาษาไทยและจีนได้เป็นอย่างดี ในเวลาเดียวกันคริสเตียนชาวจีนได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ จ.นครปฐม หลายครอบครัวและได้ทยอยกันมาเพิ่มมากขึ้น ได้หาโบสถ์ที่จะนมัสการพระเจ้าไม่ได้ส่วนหนึ่งก็ใช้บ้านของตนเองเป็นที่นมัสการภายหลังทราบว่าคุณหมอและแหม่มคล๊าร์กได้ตั้งสถานประกาศขึ้น โดยมีอาจารย์
     ชุนกวง แซ่ตั้ง เป็นผู้ประกาศจึงได้ร่วมกันนมัสการในสถานที่ประกาศแห่งนั้นร่วมกัน  ด้วยภาษาที่ใช้เป็นที่เข้าใจในหมู่คนจีนด้วยกัน ชาวจีนหลายครอบครัวที่มีอาชีพเป็นช่างไม้ก่อสร้างซึ่งต่อมาก็รับจ้างหมอแหม่มคล๊าร์กสร้างอาคารเรียน โรงพยาบาลไปในตัว การประกาศศาสนาได้ดำเนินไปเป็นปกติกับกลุ่มคนทั่วไปและโดยเฉพาะกับคนงานก่อสร้างและคนที่มารับจ้างทำงานในสถานพยาบาลและการศึกษา
     ชาวจีนที่เป็นคริสเตียนทุกครอบครัว ได้ร่วมกันนมัสการพระเจ้าที่สถานประกาศที่ตึกเรื่อยมา เมื่อเวลาผ่านไปชาวจีนส่วนหนึ่งที่ัยังไม่ได้รับความเชื่อก็กลับใจเป็นคริสเตียนหลายครอบครัวชาวไทยที่รับเชื่อและกลับใจก็มีอยู่ด้วยจำนวนสมาชิกจึงเพิ่มขึ้น
     อาจารย์จั่วเต็ก แซ่ฉั่ว ได้มาเช่าห้องแถวหัวมุมถนนระหว่าง ถนนพญาพานตัดกับถนนรถไฟ ปัจจุบันร้านขายข้าวสารตรงข้ามธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาพระปฐมเจดียื เป็นสถานประกาศพระกิตติคุณของคนจีนและลูกหลานชาวไทย ต่อมาได้ย้ายสถานประกาศจากที่เดิมไปยังถนนทหารบกตรงร้านจับไก่ อึ้งงี่ฮะ ปัจจุบันอยู่เลยคลีนิกหมอเฉลิมชัยไปทางสถานีรถไฟเล็กน้อยและได้ย้ายต่อไปอีก โดยไปอยู่ถนนราชดำริห์ตรงทางรถเมล์บางเลน(ร้านบัวแสงจันทร์)โดยมีอาจารย์บุ่นไฮ้ แซ่อั้งเป็นศิษยาภิบาล
     ต่อมาคุณหมอและแหม่มจึงได้รวมตัวชาวจีนย้ายไปเช่าสถานที่ประกาศขึ้นอีกแห่งหนึ่งคือ ซอยสอง(ปัจจุบันเป็นสถานที่เดียวกันกับร้านปืนนิยม)โดยมี ศจ.เจียกเม้ง แซ่ล้อ เป็นศิษยาภิบาล สถานประกาศแห่งนี้ได้ใช้ประโยชน์อยู่ระยะหนึ่ง ในเวลาไม่นานนักคุณหมอและแหม่มจึงได้จัดซื้อที่ดินที่ถนน 25 มกรา ใช้เป็นสถานที่ประกาศและโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนป้วยบุ้น เป็นสถานพยาบาล ปัจจุบันเป็นบ้านพักของนายแพทย์วิโรจน์ ดิเรกสถาพร ตรงข้ามกับโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนนครปฐม
     การประกาศศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ ของคุณหมอและแหม่มคล๊าร์ก ได้ควบคู่ไปกับการพยาบาลและการศึกษาเรื่อยมา สมาชิกชาวจีนที่เป็นคริสเตียนเดิม และสมาชิกที่รับเชื่อใหม่ในพื้นที่ได้เพิ่มมากขึ้น การย้ายสถานที่ประกาศก็ได้ดำเนินกันไปอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม การตั้งคริสตจักรแห่งแรกโดยการสร้างโบสถ์เป็นรูปธรรมขึ้นมา คุณหมอและแหม่มได้จัดซื้อที่ดินใช้สำหรับสร้างโบสถ์และสถานศึกษาขึ้นโดยได้สร้างโบสถ์ขึ้นที่มุมสี่แยกสมาคมพ่อค้า จ.นครปฐม ด้านมุมโรงเรียนบำรุงวิทยาในปัจจุบัน (เมื่ออดีตเป็นโรงเรียนสตรีบำรุงวิทยา) โดยมีคริสตสมาชิกจากกลุ่มชนดังกล่าวเบื้อ่งต้นเป็นสมาชิกสมบูรณ์ เป็นศูนย์รวมของสมาชิกหลายชนชาติที่พึงจะมีในขณะนั้น
     การประกาศศาสนาของคุณหมอและแหม่มคล๊าร์กได้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งควบคู่กันไปกับการพยาบาลและการศึกษา เมื่อโบสถ์ถูกสร้างขึ้นคริสตสมาชิกจากกลุ่มคนรวมกันเป็นคริสตจักรก็ดำเนินกันไปด้วยดีจนถึงเวลาอันควรความไม่สะดวกหลาย ๆ อย่างก็ได้เกิดขึ้น ด้วยขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา วัฒนธรรม นิสัยใจคอ ตลอดจนอาชีพและความเป็นอยู่ซึ่งเป็นปัญหาในขณะนั้น คริสเตียนชาวจีนจึงได้หารือกันหมอและแหม่มช่วยด้านทุนรอนจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อจัดตั้งคริสตจักรและสร้างโบสถ์แห่งใหม่ โดยเฉพาะสำหรับชาวจีนเท่านั้น เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากที่ผ่านมาชาวจีนคริสเตียนที่อพยพมาได้รวมเป็นหมู่คณะมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีผู้เชื่อในพระคริสต์ในขณะนั้น
     ในปี ค.ศ. 1936 พี่น้องในพระคริสต์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นชาวนิวซีแลนด์ ชื่อเบ็นยามิน เฮย์ ได้ถวายทรัพย์จำนวนหนึ่ง ผ่านทางคุณหมอและแหม่ม เป็นมูลค่า 4,000 บาท(สี่พันบาทถ้วน) ในสมัยนั้นเพื่อสร้างโบสถ์ขึ้น ชาวจีนซึ่งเป็นพ่อค้าพาณิชย์ส่วนใหญ่ได้ร่วมกันถวายสมทบกันขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง คุณหมอและแหม่มได้จัดซื้อที่ดินที่ปลายคลอง(ที่เป็นสถานที่โบสถ์จีนในปัจจุบัน)สร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่นมัสการของคริสเตียนชาวจีนโดยเฉพาะลักษณะของโบสถ์เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวจำนวน 1 หลัง
     ต่อมาคุณหมอ ดร.เชน ซีเต ดีเอ็ม ซึ่งเป็นผู้นำของคริสตจักรในเวลานั้นกับสมาชิกในคริสตจักรได้มีความเห็นที่จะสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นทดแทนโบสถ์ที่เล็กเกิน สภาพทรุดโทรม ไม่พอสำหรับสมาชิกที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาก อาคารหลังใหม่ใช้ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างจำนวน 1,000,000  บาท เป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สวยงามมาจนทุกวันนี้